CranioSacral Therapy

คุณค่าของการรักษาโรค ด้วยการใช้ ครานิโอซาคราลบำบัด

เป็นเวลาเกือบ 30 ปี ที่แพทย์ผู้ชาญด้านโรคกระดูก และนักวิจัย จอห์น อี อัพเล็ดเจอร์ ดีโอโอเอ็มเอ็ม ได้มุ่งมั่นพยายาม นำเสนอการใช้จังหวะการเต้นของระบบ ครานิโอซาคราล ในการเพิ่มการทำหน้าที่ของร่างกายให้ดีขึ้นและช่วยในการลดการเจ็บปวดและทรมาณ ระบบ ครานิโอซาคราล ประกอบด้วยเนื้อเยื่อและของเหลวของสมองร่วมไขสันหลัง (เซเรโบรสไปนัล) ที่ห่อหุ้มและป้องกัน สมองและไขสันหลัง มันขยายต่อมาจากกระดูกของกระโหลกศีรษะ ใบหน้า และปาก ซึ่งรวมกันตั้งแต่กระดูกหุ้มสมองต่อลงไปจนถึงบริเวณที่เป็นกระดูกใต้กระเบนเหน็บหรือกระดูกก้นกบ การบำบัดด้วย ครานิโอซาคราล เป็นวิธีการรักษาที่ค่อยเป็นค่อยไป ของการค้นให้พบและทำการแก้ไข ที่กระตุ้นให้กลไกการรักษาตามธรรมชาติในร่างกายของคุณเอง ให้กำจัดสิ่งที่มีผลกระทบทางลบของความเครียดที่มีอยู่บนระบบประสาทส่วนกลางของคุณ คุณยังจะได้ประโยชน์เพิ่มอีก ด้านสุขภาพและความต้านทานต่อโรคโดยรวม นับแต่เมื่อระบบที่สำคัญต่อชีวิตนี้เข้ามามีอิทธิพลต่อการพัฒนา และการดำเนินการของสมองและไขสันหลัง เมื่อใดที่ตัวมันเกิดการขาดสมดุล หรือถูกจำกัด ก็มีโอกาสสูงที่ จะเป็นสาเหตุให้เกิดการขาดความสามารถ ในความรู้สึกรับรู้ การสั่งการและประสาทส่วนต่างๆ

ปัญหาเหล่านี้อาจรวมไปถึงการเจ็บปวดเรื้อรัง อาการต่างๆทางตา กระดูกสันหลังคด การประสานสั่งการแปรปรวน ความสามารถในการเรียนและสุขภาพอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไป

สภาวะใดที่ใช้ การบำบัดด้วยวิธี ครานิโอซาคราล?

CranioSacral Therapy

การบำบัดด้วยวิธี ครานิโอซาคราล เป็นการสร้างให้ร่างกายมี ความสามารถในการดูแลตัวคุณได้ดีขึ้น มันยังช่วยลดทอน ความเจ็บป่วย ความเจ็บปวดและการทำงานอย่างผิดปกติลงได้ในระดับหนึ่ง รวมถึง

  • ไมเกรน และอาการปวดศีรษะ การปวดคอและหลังเรื้อรัง
  • การสูญเสียการประสานงานของตัวขับเคลื่อน
  • ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียดและความตึง
  • การบาดเจ็บที่มีต่อบาดแผลที่สมองและไขสันหลัง
  • กลุ่มอาการ เท็มโพรมานดิบูลาร์ที่ข้อต่อ (ทีเอ็มเจ)
  • ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
  • ความผิดปกติ ของความเครียดหลังการบาดเจ็บ
  • ความยุ่งยากทางอารมณ์
  • การไร้ความสามารถในการเรียน
  • ปัญหาต่างๆด้านออร์โธปิดิกส์
  • (กระดูกและกล้ามเนื้อ)
  • กระดูกสันหลังอ่อนล้าเรื้อรัง

การบำบัดด้วยวิธี ครานิโอซาคราล นั้นทำอย่างไร

Floated image

บ่อยครั้งที่ทำ การบำบัดด้วยวิธี ครานิโอซาคราล กับบุคคลโดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้า ด้วยการสัมผัสแผ่วเบา - โดยทั่วไปจะไม่มากเกินกว่าน้ำหนักของเหรียญห้าบาท - ผู้ปฏิบัติการรักษา เฝ้าติดตามจังหวะของระบบ ครานิโอซาคราล เพื่อตรวจจับ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการยับยั้งและการไม่สมดุล จากนั้น ผู้ให้การรักษาจะใช้เทคนิคที่ละเอียดอ่อนด้วยมือ เพื่อปลดปล่อยพื้นที่อันเป็นปัญหาเหล่านั้น และปลดเปลื้องแรงกดที่มีมากเกินควรต่อสมองและไขสันหลัง

ระยะเวลา ทำการบำบัดด้วย ครานิโอซาคราล อย่างน้อยจาก 30 นาทีถึงเกินกว่าหนึ่งชั่วโมง

บางครั้งประโยชน์ต่างๆนั้น จะยังไม่ทันสังเกตุเห็นได้ในทันที แต่กลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดหรือกลับมาเมื่อมีสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย การบำบัดที่กระทำซ้ำอีก อาจเป็นสิ่งที่น่าแนะนำให้ทำ เพื่อให้ความสมดุลของร่างกายและจิตใจนั้นฝังรากลึก และอยู่อย่างยาวนาน

สิ่งแรกที่ผู้ป่วยน่าจะสังเกตุได้ คือความรู้สึกผ่อนคลายอย่างลึกยิ่ง ซึ่งโดยมากจะเป็นอยู่ตลอดระยะเวลาที่ทำการรักษา หลังการบำบัดแต่ละครั้ง ตามปกติร่างกายต้องการเวลา ในการทำความคุ้นเคยและปรับตัวเองให้เข้ากันได้กับความสมดุลที่ได้พบใหม่นั้น เมื่อทำการรักษาครั้งต่อๆไป ความสมดุลที่ได้พบใหม่นี้มักขยายออกไปสู่ชีวิตประจำวัน

ผลน่ะหรือ คือการปลดปล่อยให้ระบบประสาทส่วนกลางเป็นอิสระจากข้อจำกัด และมีร่างกายที่สามารถกลับคืนไปที่ระดับการทำงานที่ดีที่สุดของมัน

การบำบัดด้วย ครานิโอซาคราล เริ่มต้นอย่างไร

Floated image

การบำบัดด้วย ครานิโอซาคราล ย้อนกลับไปในปี 1970 เมื่อแพทย์ผู้ชาญด้านโรคกระดูก และนักวิจัย จอห์น อี อัพเล็ดเจอร์ ได้พบการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะของ ระบบ ครานิโอซาคราลเป็นครั้งแรก ระหว่างที่ทำการผ่าตัดกระดูกสันหลัง แต่ขณะนั้นยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนใดของเขา หรือรายงานทางการแพทย์ สามารถให้คำอธิบายถึงปรากฏการณ์นั้น .

สองปีต่อมา ดร. อัพเล็ดเจอร์ ได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้น ในเรื่องกระดูกกระโหลก ที่ ดร. วิลเลี่ยม ซัทเทอร์แลนด์ ได้พัฒนาขึ้น หลักสูตรมุ่งเน้นในเรื่องกระดูกของกระโหลกศีรษะ และความจริงที่ว่า ทั้งสองสิ่งนี้มิได้เคยรวมกันเช่นที่บรรดาหมอได้รับการสอนจากโรงเรียน แทนที่ด้วย วัสดุของ ดร. ซัทเทอร์แลนด์ ที่แสดงให้เห็นว่า กระดูกกระโหลกศีรษะยังคงขยับเขยื้อนต่อไปตลอดชีวิตของผู้คน

เมื่อได้นำข้อมูลใหม่นี้มารวมเข้ากับจังหวะการเต้นที่แปลก ที่เขาได้สังเกตุเห็นเมื่อหลายปีก่อน ดร. อัพเล็ดเจอร์ ตั้งเป็นทฤษฎีขึ้นได้ว่า เป็นระบบไฮดรอลิกส์บางอย่าง กำลังทำหน้าที่อยู่ภายในระบบครานิโอซาคราล จากนั้นเขาก็เริ่มต้น ทำการเพื่อยืนยันทฤษฎีของเขา

ในปี ค.ศ. 1975 เขาได้ร่วมกับวิทยาลัยโรคกระดูก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ในฐานะผู้วิจัยทางการแพทย์ ทำการวิจัยร่วมกับศาสตราจารย์ทางด้านชีวกลศาสตร์ ที่นั่นเขาเป็นผู้นำทีมของผู้ชำนาญด้านกายวิภาค ผู้ชำนาญด้านสรีรศาสตร์ นักชีวฟิสิกส์ นักวิศวกรรมชีวภาพ ในการทำการทดสอบและจัดทำเอกสารบันทึกการบำบัดด้วยวิธีครานิโอ-ซาคราล ในขั้นแรกเขาสามารถอธิบายการทำงานของวิธีครานิโอ-ซาคราลได้ และแสดงให้เห็นว่า การใช้วิธีการสัมผัสอย่างนุ่มนวล สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขและรักษาอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับสมองและกระดูกสันหลังได้

© Copyright 2011 craniosacral-thailand.com. All rights reserved.