การทำหน้าที่อย่างถูกต้องของระบบน้ำเหลือง เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ต่อความสามารถของร่างกายของเรา ในการล้างพิษ และสร้างเนื่อเยื่อให้เกิดขึ้นใหม่ กรองกักชีวพิษ และสารต่างๆที่แปลกปลอมไว้ คืนกลับสารสำคัญต่างๆที่ได้หายไปจากเลือด และรักษาให้มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เป็นระบบที่ซับซ้อน มีองค์ประกอบขั้นต้นเป็นหลอดน้ำเหลืองและปุ่ม ปม ทำงานประสานกันเพื่อให้หน้าที่ต่างๆเหล่านี้ทำได้สำเร็จ
ไม่เหมือนกับระบบไหลเวียน ซึ่งใช้การสูบฉีดของหัวใจ ทำให้เลือดไหล เวียน หลอดน้ำเหลืองพึ่งพาหน่วยกล้ามเนื้อขนาดเล็กจิ๋วจำนวนนับร้อย (ลิมฟานจิออนส์) ที่หดตัวบีบรัดตลอดทั่วร่างกาย เพื่อขับเคลื่อนน้ำเหลือง การหดตัวเหล่านี้ ช่วยทำให้หลอดน้ำเหลืองสามารถจัดส่งสารต่างๆจำนวนมาก (เช่น โปรตีน ชีวพิษ ฮอร์โมน กรดไขมัน เซลล์ภูมิคุ้มกัน) ไปยังปุ่มน้ำเหลือง ที่ซึ่งหลังจากนั้นสามารถทำการตามขั้นตอนให้มัน
การกระทำของหน่วยกล้ามเนื้อเหล่านี้ อาจถูกขัดขวาง หรือทำให้หยุดได้ เนื่องจากความอ่อนล้า ความเครียด การหย่อนยานด้านกิจกรรมทางกายภาพ การตกใจที่มีต่อจิตความรู้สึก อุณหภูมิที่เย็นจัด การติดเชื้อ การบวมอย่างมาก อายุ สารเคมีและสิ่งเสริมในอาหาร เมื่อการไหลเวียนของน้ำเหลืองเกิดหยุดนิ่ง ของเหลว โปรตีน เซลล์ และชีวพิษ จะเกิดการสะสม และการทำหน้าที่ของเซลลูลาร์จะเสี่ยงต่ออันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเจ็บป่วยทางกายภาพได้หลายอย่าง และอาจเร่งให้กระบวนการพัฒนความแก่เร็วขึ้น
จากลักษณะธรรมชาติของระบบน้ำเหลืองและบทบาทหน้าที่ของมันในร่างกาย การบำบัดด้วยการถ่ายน้ำเหลือง สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์ในการแก้ไข สภาพต่างๆได้หลากหลายประการ พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ดีสำหรับการป้องกันด้านสุขภาพ
ในสาระสำคัญ การบำบัดด้วยการถ่ายน้ำเหลือง เป็นการทำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเหลว และเร่งการทำหน้าที่ของระบบสร้างภูมิคุ้มกัน และระบบประสาท พาราซิมพาเทติก เมื่อการกระทำเหล่านี้สำเร็จ ผลลัพธ์อาจได้เป็น:
กระบวนการบำบัดโรคด้วยการถ่ายน้ำเหลือง เกี่ยวข้องกับ การใช้การสัมผัสด้วยมืออย่างนุ่มนวล เพื่อช่วยในการทำให้เกิดการไหลวนของน้ำเหลือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ให้การบำบัด ทำงานด้วยการใช้สองฝ่ามือแบนราบ ใช้ทุกนิ้วในการกระตุ้นด้วยการเคลื่อนไหวเหมือนคลื่น การสัมผัสด้วยมืออย่างนุ่มนวลเช่นนี้ จะกระตุ้นให้น้ำเหลืองและของเหลวที่แทรกอยู่นั้น เกิดการไหลเวียนอีกครั้ง เช่นเดียวกับการกระตุ้นการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาท พาราซิมพาเทติก
แรงกดที่ใช้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณห้ากรัม หรือเทียบเท่ากับน้ำหนักของเหรียญชนิดห้าบาท การใช้เทคนิคนี้ ผู้ให้การรักษาที่ได้รับการฝึกอบรมแล้ว จะสามารถตรวจพบ จังหวะที่เป็นการเฉพาะ ทิศทาง ความลึก และคุณภาพ ของการไหลของน้ำเหลืองไม่ในที่ใดๆในร่างกาย
จากนั้น พวกเขาสามารถใช้มือของพวกเขาในการทำ ทำแผนที่ระบบน้ำเหลืองด้วยมือ (เอ็มแอลเอ็ม) ของท่อทางเดินต่างๆ เพื่อประเมินการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองโดยรวม และพิจารณากำหนดเส้นทางทดแทนที่ดีที่สุด สำหรับการถ่ายเท ของเหลวในร่างกายที่ไหลช้านั้น
การถ่ายระบบน้ำเหลือง เป็นเทคนิคที่ได้ออกแบบไว้เพื่อกระตุ้นให้ทำงานและ ทำความสะอาดระบบของเหลวในร่างกายมนุษย์
ต้นกำเนิดของเรื่องมาจากที่มา 2 แหล่ง:
สิ่งพิมพ์ที่เป็นงานวิจัยของ เฟรเดอริค มิลลาร์ด นักฟิสิกส์ด้านโรคกระดูกและกล้ามเนื้อชาวแคนาดา (1922) และของ เอมิล วอดเดอร์ ผู้ประกอบการนวดชาวเดนมาร์ก และปริญญาเอกด้านปรัชญา (1932) หลายปีต่อมา วิธีการต่างๆที่ใช้พื้นฐานจากการค้นพบของผู้บุกเบิกทั้งสองท่านนี้ ได้รับการปรับปรุง กลั่นกรองและเพิ่มเติม
การบำบัดด้วยการถ่ายน้ำเหลือง เป็นวิธีการเฉพาะอย่างหนึ่ง ของการถ่ายและการเคลื่อนไหวที่เป็นการกระตุ้นอย่างดีแก่ของเหลวในระบบน้ำเหลือง ที่นายแพทย์ บรูโน ชิคลีย์ เอ็มดี ชาวฝรั่งเศษ เป็นผู้พัฒนาขึ้น เป็นการสร้างต่อยอดจาก งานวิจัยที่ได้รับรางวัลของเขา ในเรื่องระบบน้ำเหลือง การบำบัดด้วยการถ่ายน้ำเหลือง เป็นการนำเอาเทคนิกการถ่ายน้ำเหลืองที่ทำเป็นแบบอย่างดั้งเดิมและเพิ่ม ระดับของความแม่นยำ ที่สอดคล้องกับการค้นพบเมื่อไม่นานทางวิทยาศาสตร์ การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เมื่อไม่นานนี้ ในด้าน สรีรศาสตร์ของระบบน้ำเหลือง เป็นการยืนยันความถูกต้องว่า เทคนิคต่างๆเหล่านี้ คือการเต้นเป็นจังหวะที่แน่นอน แรงกดนวดอย่างนิ่มนวล ที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อกระตุ้นการไหลอย่างเหมาะสมของน้ำเหลือง ผลที่ออกมา คือ ผู้ให้การบำบัด สามารถทำผลลัพธ์ได้สำเร็จอย่างดียิ่ง โดยใช้เวลาที่น้อยกว่ามาก และลูกค้าพบว่ากระบวนการปฏิบัตินั้น ทำให้ได้รับความสนุกเพลิดเพลินที่มากกว่า